เลขที่ 5  ถนนท้ายบ้าน  ซอย 22  ต.ปากน้ำ  อ.เมืองสมุทรปราการ  จ.สมุทรปราการ  10270  โทรศัพท์ 02-701-6174  โทรสาร 02-701-8625

 

St.Raphael School


  
      ส่วนหนึ่งของการนำเสนอ Project
    นวัตกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
    ตอนปลาย แสดงไว้เพื่อเป็นแนวทาง
    ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
    ในด้านการพูดและการปรับปรุง
    บุคลิกในการพูดนำเสนอผลงาน!!!




















 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

     
     

       การสื่อสารและการนำเสนอ (Comunication and Presentation)

   
   

[หน้า 1]  [หน้า 2]  [หน้า 3[หน้า 4]  [หน้า_5]  [การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี]

   

[M_41]  [M_42]  [M_51 [Formatting [Research(M.5)]  [โครงร่างการศึกษาค้นคว้าเิงวิชาการ]

   
 
 
  ว32296 การสื่อสารและการนำเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1

              ศึกษาเรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์จากรายวิชาเพิ่มเติม  การศึกษาค้นคว้า  และสร้างองค์ความรู้
( Research and knowledge information ) เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก

              ฝึกปฏิบัติใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้แบบร่วมมือ กระบวนการกลุ่ม โดยการเขียนโครงร่าง บทนำ เนื้อเรื่อง สรุปในรูปของการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทย ความยาว 4,000 คำ หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้อย่างหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียบเรียงถ่ายทอดสื่อสาร นำเสนอแนวคิดอย่างชัดเจนเป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย และมีการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะในการเขียนรายงานเชิงวิชาการและทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งาน และถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้ประโยชน์แม่สาธารณะ

 ผลการเรียนรู้

   1.  มีความรู้และทักษะวางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ
   2.  เข้าใจและเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทย ความยาว 4
,000 คำ หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คำ
  
3.  มีความรู้ทักษะการนำเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกแบบเดี่ยว หรือกลุ่มโดยใช้สื่อเทคโนโลยี
        ที่หลากหลาย
   4.  เข้าใจและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะชน โดยใช้การสนทนาวิพากษ์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
   5.  เห็นประโยชน์และคุณค่าการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เห็นประโยชน์

อัตราส่วนคะแนน 70 : 30

  > Midterm 20 คะแนน
  > Frinal 30 คะแนน
  > Project & Presentation 25 คะแนน
  > ใบงาน 1 15 คะแนน
  > ใบงาน 2 10 คะแนน
     
     
     
     
   

การศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ (Research)

     
     
                   งานวิจัย คือกระบวนการที่มีการศึกษาและการสืบค้นเพื่อหาคำตอบ หรือสืบค้นข้อมูลที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน
เพื่อค้นหาความรู้ใหม่หรือการเสริมสร้างความรู้ใหม่และเป็นการพัฒนาทฤษฎี เทคนิคใหม่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
หรือสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ

               รายงานวิจัยหรือบทความวิชาการ จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับชุมชน หน่วยงานวิชาการ และประชาชน
ที่สนใจในเรื่องวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละงานวิจัยมีลักษะและเป้าหมายที่แตกต่างกันได้

เป้าหมายของงานวิจัย
            1. การวิจัยพื้นฐาน (Basic Research) เน้นการค้นหาความรู้ใหม่และการเสริมสร้างทฤษฎี
            2. การวิจัยประยุกต์ (Applied Research) เน้นการนำความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันหรืออุตสาหกรรม
            3. การวิจัยพัฒนา (Developmental Research) เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความ
                ต้องการของสังคมหรือธุรกิจ

งานวิจัยพิจารณาจากลักษณะของการศึกษาตัวแปร แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
           1. งานวิจัยเฉพาะกรณี (Case Study) เช่น การศึกษาว่าเด็กสอบตกเกิดจากสาเหตุใด
           2. งานวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) ช่น การสำรวจทัศนคติเพื่อหาข้อเท็จจริง
           3. งานวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการศึกษาตัวแปร โดยการควบคุม มุ่งวิจัย และสังเกตผลที่เกิดขึ้น
               ส่วนใหญ่ใช้ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์

งานวิจัยแบ่งตามระเบียบการวิจัย แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
           1. งานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Research) เป็นการศึกษาหาข้อเท็จจริงที่เป็นเรื่องราวในอดีต เพื่อนำความรู้มา 
               อธิบายเหตุการณ์ในปัจจุบันและอนาคต
           2. งานวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) เป็นการศึกษาเพื่อบรรยายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
           3. งานวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการศึกษาตัวแปร เพื่อทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดผล
     
     
  งานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์
     
               เป็นการวิจัยที่ค้นหาและศึกษาข้อเท็จจริงในอดีตโดยข้อมูลที่ใช้ในการ ค้นคว้านั้นมาจากเหตุการณ์ ที่ยังคงเหลือไว้จากอดีต เช่น จดหมายเหตุ โบราณสถานต่างๆ เป็นต้น ประโยชน์ของการวิจัย ชนิดนี้ก็คือ สามารถน ามาใช้เป็นแนวทางในการศึกษา เหตุการณ์ต่างๆ ในปัจจุบัน หรือสามารถน ามาใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ด้วย
     
     
  งานวิจัยเชิงพรรณนา
     
               เป็นการวิจัยที่มุ่งศึกษาเพื่อค้นคว้าหา ข้อเทจ็จริงของเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อนําข้อค้นพบไปบรรยายให้เห็นว่า เหตกุารณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร บ่อยครั้งหรือไม่
 
     
  งานวิจัยเชิงทดลอง
     
                เป็นกระบวนการค้นหาความรู้ ความจริง โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แบบหนึ่ง ซึ่งศึกษาความเปลี่ยนแปลงของตัวแปรในการทดลองที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขหรือสถานการณ์ที่ได้รับการควบคุมอย่างรัดกุม เพื่อศึกษาเงื่อนไขหรือสถานการณ์ที่จัดขึ้นนั้น เป็นสาเหตุที่แท้จริงของผลหรือปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นหรือไม่ โดยผู้วิจัยจะใช้วิธีการสังเกต เปรียนเทียบความแตกต่างของตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นสภาพปกติ  กับที่เกิดขึ้นในสภาพที่ได้รับการควบคุมตามเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นความจริงต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการอธิบาย ทำนาย และควบคุมปรากฏการณ์นั้นได้
     
 

โครงร่างการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ  (Research) 

 
 
 
   

ส่วนประกอบตอนต้น
       - ปกนอกด้านหน้า  (ตัวอย่างหน้าปก)
       - ใบรองปก
       - บทคัดย่อภาษาไทย (สรุปเนื้อหาสำคัญของงานวิจัย วัตถุประสงค์ วิธีการ ผลลัพธ์ และข้อสรุปที่สำคัญของงาน)
       - บทคัดย่อภาษาอังกฤษ (ตัวอย่างAbstract)
       - กิตติกรรมประกาศ (ตัวอย่างการเขียน)
       - สารบัญ
       - สารบัญภาพ
       - สารบัญตาราง

บทที่ 1  บทนำ
              1.1  ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (ตัวอย่างการเขียน)
              1.2  วัตถุประสงค์ของการวิจัย
              1.3  สมมติฐาน (การตั้งสมมติฐาน คือ การคาดเดาคำตอบอย่างมีเหตุผลสำหรับปัญหาหรือปรากฏการณ์
                     ที่ต้องการศึกษา โดยอาศัยความรู้ ประสบการณ์ หรือข้อมูลที่มีอยู่ สมมติฐานที่ดีควรเป็นไปได้,
                     สามารถทดสอบได้ และมีความสัมพันธ์กับตัวแปรที่เกี่ยวข้อง )   ตัวอย่างสมมติฐาน

              1.4  ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
              1.5  ขอบเขตของการวิจัย
                     - ขอบเขตของเนื้อหา
                     - ขอบเขตของสถานที่
                     - ขอบเขตของระยะเวลา

              1.6  นิยามศัพท์ (นิยามศัพท์ คือ การกำหนดความหมายของคำศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการวิจัยอย่างชัดเจน เพื่อ
                     ให้ผู้อ่านและผู้ทำวิจัยมีความเข้าใจตรงกันในความหมายของคำศัพท์นั้นๆ โดยเฉพาะคำที่มีความหมายหลายนัย
                     หรือคำที่ใช้ในบริบทของการวิจัยนั้นๆ)


บทที่ 2  วรรณกรรมและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง          
            
  2.1  ทฤษฎีที่สัมพันธ์กับเรื่องที่วิจัย
            
  2.2  แนวคิดที่สัมพันธ์กับเรื่องที่วิจัย
            
  2.3  งานวิจัยที่สัมพันธ์กับเรื่องที่วิจัย

บทที่ 3  วิธีดำเนินการวิจัย
               3.1  ประชากร
            
  3.2  กลุ่มตัวอย่าง
            
  3.3  การเก็บรวบรวมข้อมูล
            
  3.4  การวิเคราะห์ข้อมูล
            
  3.5  ระยะเวลาการวิจัย

บทที่ 4  ผลการวิจัยและอภิปรายผล
              4.1  ผลการวิจัย
           
  4.2  อภิปรายผล

บทที่ 5  สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
              5.1  สรุปผลการวิจัย
           
  5.2  ข้อเสนอแนะ
    

ส่วนประกอบตอนท้าย
         
-  บรรณานุกรม
          -  ภาคผนวก
          -  ใบรองปก
          -  ปกนอกด้านหลัง

 
  หมายเหตุ : 1. จัดพิมพ์ผลงานวิจัยด้วย Google doc.
  2. สรุปผลงานวิจัยละนำเสนอผลงานเป็นกลุ่ม ดยใช้ Canva Presentation (ไม่เกิน 10 หน้า)
  3. ส่งรายงานในรูปรูปเล่มและไฟล์ .PDF
  4. ผลงานที่ผ่านการพิจารณานำเชื่อมลิงค์เผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์โรงเรียน
  5. ระยะเวลาดำเนินงาน กรกฎาคม - สิงหาคม 2568
  6. นำเสนอผลงาน  พุธที่ 3 และ พุทธที่ 10 กันยายน 2568
 
 

 

 
  เทคนิคการตั้งชื่อเรื่องงานวิจัย
    1. กระชับและชัดเจนว่าจะทำวิจัยเรื่องอะไร
2. อ่านแล้วเข้าใจว่าจะศึกษาตัวแปรอะไร
3. ไม่ตั้งชื่อเรื่องเป็นประโยคคำถาม
     
     
  ที่มาของการกำหนดปัญหาการวิจัย
    1. ความสนใจของผู้วิจัย
2. ความรู้ในศาสตร์แขนงต่างๆ
3. ปัญหาจากการทำงานหรือการเรียน
4. ปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาพเศรษฐกิจทั่วไป
5. การอ่านตำรางานวิจัย
6. ข้อเสนอแนะจากงานวิจัยที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว
7. การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและหลักสูตร
     
     
  ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (ตัวอย่างการเขียน)
              
                     "ผลกระทบของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อพฤติกรรมการอ่านของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา"

           ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการสื่อสาร ติดตามข่าวสาร และค้นหาข้อมูลต่างๆ อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการอ่านของนักเรียนได้ จากการศึกษาพบว่า นักเรียนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจกับการอ่านบนหน้าจอมากกว่าการอ่านจากหนังสือ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการอ่าน การทำความเข้าใจ และการวิเคราะห์เนื้อหาที่ซับซ้อนได้ ดังนั้น การวิจัยนี้จึงมีความสำคัญที่จะศึกษาผลกระทบของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อพฤติกรรมการอ่านของนักเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 
     
  การเขียนวัตถุประสงค์ของงานวิจัย
     
               คือการกำหนดสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการศึกษาให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เพื่อให้การวิจัยมีทิศทางและสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ วัตถุประสงค์ที่ดีควรสอดคล้องกับชื่อเรื่องและปัญหาของการวิจัย ระบุสิ่งที่ต้องการศึกษา เขียนในลักษณะที่สั้น ชัดเจน กระชับ เข้าใจง่าย สามารถวัดและประเมินผลได้ เขียนในรูปแบบของประโยคบอกเล่าหรือกำหนดเป็นข้อวัตถุประสงค์ก็ได้ ไม่ควรเกิน 3 ข้อ ถ้าวัตถุประสงค์มีมากเกินไปอาจทำให้เสียเวลาเพราะต้องวิเคราะห์และสรุปตอบให้ครบทุกข้อ การตั้งวัตถุประสงค์ให้ขึ้นต้นด้วยคำว่า เพื่อ.....................................................................
 
     
     
     
     
     

 


St.Raphael School


 
Copyright 2025 ©
St.Raphael School
  No.5 Soi 22, Tai Ban Subdistrict, Mueang Samut Prakan District, Samut Prakan 10270
  Tel. 0-2701-6174-5   e-mail :business@raphael.ac.th  website: https://www.saintraphael.ac.th
  Update: 1 Ma
y 2025

จำนวนผู้เยื่ยมชม