St.Raphael School

      ส่วนหนึ่งของการนำเสนอ Project
    นวัตกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
    ตอนปลาย แสดงไว้เพื่อเป็นแนวทาง
    ให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
    ในด้านการพูดและการปรับปรุง
    บุคลิกในการพูดนำเสนอผลงาน!!!

การสื่อสารและการนำเสนอ (Comunication and Presentation)

เนื้อหาการสอน [หน้า 1] [หน้า 2] [หน้า 3] [หน้า 4] [หน้า_5] [Research(M5)]

[M_41] [M_42] [M_51] [Formatting] [โครงร่างการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ] [การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี]

ว31288 การสื่อสารและการนำเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1

ศึกษาอธิบายเรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก โดยเขียนโครงร่าง บทนำ เนื้อหา สรุป ในรูปของรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทย ความยาวจำนวน 4,000 คำ หรือเป็นภาษาอังกฤษความยาว 2,500 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรียบเรียงและถ่ายทอดสื่อสาร นำเสนอความคิดอย่างชัดเจนเป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยวหรือกลุ่ม โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลายและมีการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ ในการเขียนรายงานเชิงวิชาการ และทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เห็นประโยชน์ คุณค่าในการสร้างสรรค์ผลงานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะ

ผลการเรียนรู้ที่นักเรียนได้รับ

1. มีความรู้และทักษะ การวางโครงร่าง การเขียนตามหลักเกณฑ์ องค์ประกอบ

และวิธีการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ

2. เข้าใจและเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทย ความยาว 4,000 คำ

3. มีความรู้ ทักษะ การนำเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุป จากประเด็นที่เลือกแบบเดี่ยวหรือแบบกลุ่ม

โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย

4. เข้าใจและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ โดยใช้การสนทนาวิพากษ์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

5. เห็นประโยชน์และคุณค่าการสร้างสรรค์งาน และถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เป็นประโยชน์

อัตราส่วนคะแนน 70 : 30 (ม.4)


> Midterm	20	คะแนน
> Final	30	คะแนน
> Project & Presentation	25	คะแนน
> ใบงาน 1	15	คะแนน ใบงาน 1
> ใบงาน 2	10	คะแนน ใบงาน 2 (.pdf)

ความหมายของการสื่อสารและการนำเสนอ

การสื่อสาร (Communication)

การสื่อสาร เป็นกระบวนการหนึ่งในการถ่ายทอดคำพูด เรื่องราวจากบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า "ผู้ส่งสาร" ไปยังอีกบุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า "ผู้รับสาร" โดยผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ (https://funcrowd.co.th/การสื่อสาร/)

เทคนิคของการสื่อสารและการนำเสนอที่ดี

1. สบตา การสบตากับผู้ฟังแสดงถึงความเปิดเผย จริงใจ และความสนใจ ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ

2. ภาษากาย การแสดงออกทางภาษากายที่เปิดเผยและเป็นธรรมชาติ ช่วยเสริมความชัดเจนและความน่าเชื่อถือของข้อมูล

3. การฟังอย่างตั้งใจ การเป็นผู้ฟังที่ดี โดยแสดงออกถึงความสนใจ และพยายามทำความเข้าใจผู้พูด
     ช่วยให้การสื่อสารสัมฤทธิ์ผล

4. ตั้งคำถามเพื่อทำความเข้าใจ การตั้งคำถามที่เหมาะสมแสดงถึงความสนใจและความใส่ใจในเรื่องที่กำลังสื่อสาร
     ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี

การนำเสนอ (Presentation)

เป็นการสื่อสารอีกรูปแบบหนึ่ง เป็นการถ่ายทอดข้อมูล แผนงาน โครงการ ข้อเสนอ จากผู้นำเสนอผลงานไปสู่ผู้พิจารณาผลงาน หรือจากผู้นำเสนอไปสู่บุคคลกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ให้บุคคลกลุ่มเป้าหมายหรือผู้รับสาร เห็นด้วย คล้อยตาม สนับสนุนให้ดำเนินการ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) (http://designtechnology.ipst.ac.th/wpcontent/uploads/sites/83/2020/01/4_06การนำเสนอผลงาน-1.pdf)

สรุป การนำเสนอหมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูลความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้รับสาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่างๆ อันจะทำให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ

ประเภทของรายงาน

1. รายงานทั่วไป คือรายงานที่เสนอข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็น เพื่อให้ทราบผลการปฏิบัติงาน

หรือเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งที่ผ่านไปแล้วหรือกำลังดำเนินการอยู่

หรือแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็ได้

2. รายงานวิชาการ คือเรื่องราวที่เป็นผลจากการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการแล้วนำมาเรียบเรียงอย่างมี
ระเบียบแบบแผน เรื่องราวที่นำมาเขียนรายงานต้องเป็นข้อเท็จจริง หรือความรู้อันเกิดจากการรวบรวม
ข้อมูลด้วยวิธีการศึกษาค้นคว้าที่เป็นระบบ

ขั้นตอนสำคัญในการเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า

การเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า คือการเขียนเสนอผลอันได้จากการศึกษาค้นคว้าพิเศษ

นอกเหนือจากเรื่องที่ได้ศึกษาในชั้นเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง มีขั้นตอน

สำคัญ 5 ขั้นตอน ดังนี้

1. กำหนดเรื่องที่จะเขียนรายงาน

2. วางแผนการเขียน

3. ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล

4. เรียบเรียงเนื้อหาและเขียนรายงาน

5. ตรวจทานและปรับปรุง

ภาษาที่ใช้ในการเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า

- ใช้ภาษาที่เป็นทางการไม่ใช้ภาษาพูด คำผวน คำแสลง อักษรย่อ คำย่อ

- ใช้คำที่มีความหมายชัดเจน ละเว้นการใช้ภาษาฟุ่มเฟือย การเล่นสำนวน

- ระมัดระวังเรื่องการสะกดคำ การแบ่งวรรคตอน การแยกคำ

- ในการอธิบายความ ต้องเลือกใช้คำที่มีความหมายสอดคล้องกับความเป็นจริง

รายงานการศึกษาค้นคว้าทางวิชาการรูปแบบต่างๆ

1.1 รายงานการศึกษาค้นคว้า (report) เป็นการค้นคว้าเรื่องราวที่เกี่ยวกับวิชาเรียน อาจเป็นปัญหา
หรือข้อมูลที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม

1.2 รายงานประจำภาค หรือภาคนิพนธ์ (term paper) เป็นการศึกษาค้นคว้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ
ใช้เป็นส่วนประกอบการเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งในแต่ละภาค ผู้เขียนต้องศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดลึกซึ้ง
มากกว่ารายงานการค้นคว้า

1.3 วิทยานิพนธ์ หรือปริญญานิพนธ์ (thesis or dissertation) เป็นการศึกษาค้นคว้าวิจัยอย่างละเอียดลึกซึ้ง
       มีระบบตามขั้นตอนของการวิจัย โดยมีสมมติฐานเป็นแนวทางในการศึกษา เรื่องที่ศึกษาควรเป็นเรื่องใหม่
       สามารถเผยแพร่เป็นความรู้ทางวิชาการที่มีคุณภาพ และแสดงถึงความคิดที่มีเหตุผล การเขียนวิทยานิพนธ์
       มุ่งถึงการค้นคว้าอย่างมีระบบระเบียบ ตลอดจนใช้ภาษาได้ถูกต้องเหมาะสม จึงเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา
       ระดับมหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิต

1.4 รายงานการวิจัย (research paper) เป็นการเสนอผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าวิจัยเพื่อเผยแพร่
ให้ผู้อื่นได้ทราบข้อเท็จจริงหรือความรู้ใหม่ๆที่ค้นพบ

รูปแบบการจัดพิมพ์เอกสารการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ

	โปรแกรม :	Google doc. หรือ MS-Word
	ขนาดกระดาษ :	A4 (กระดาษสีขาว)
	ตั้งค่าหน้ากระดาษ :	ขอบกระดาษด้านบนและขอบด้านซ้าย 1.5 นิ้ว (3.81 เซนติเมตร)
		ขอบกระดาษด้านขวา และด้านล่าง 1 นิ้ว (2.54 เซนติเมตร)
	รูปแบบตัวอักษร :	Sarabun หรือ Thai Sarabun
	การย่อหน้า :	เว้นขอบด้านซ้าย 8 ตัวอักษร หรือประมาณ 0.75 นิ้ว (1.56 เซนติเมตร)
	ขนาดตัวอักษร :	ชื่อเรื่อง 12 Point ตัวหนา	(MS-Word 16 Point)
		หัวข้อเรื่อง 12 Point ตัวหนา	(MS-Word 16 Point)
		เนื้อเรื่อง 12 Point (ธรรมดา)	(MS-Word 16 Point)
	ใสหมายเลขหน้าที่มุมบนด้านขวา :	ขนาดตัวอักษรของเลขหน้า 12 Point (MS-Word 16 Point)


ส่วนประกอบของการทำรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ

ส่วนที่ 1 ส่วนประกอบตอนต้น

- ปกนอกด้านหน้า (คลิก...ดูตัวอย่าง)

- ใบรองปก

- ปกนอกด้านใน

- คำนำ (คลิก...ดูตัวอย่าง)

- สารบัญ (คลิก...ดูตัวอย่าง)

ส่วนที่ 2 ส่วนเนื้อหา

2.1 บทนำ (คลิก...ดูตัวอย่าง)

2.1.1 ชื่อเรื่อง (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)

2.1.2 ความเป็นมาและความสำคัญของการศึกษาค้นคว้า

2.1.3 วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า

2.1.4 สมมติฐาน

2.1.5 ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า

- ขอบเขตของเนื้อหา

- สถานที่

- ระยะเวลา

2.2 รายละเอียดของเนื้อหาและวิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า

- ชื่อเรื่อง

- กำหนดหัวข้อหลักในการศึกษาค้นคว้า

                                - วางแผนการศึกษาค้นคว้า
                                       * เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
                                          (มีอะไรบ้าง เช่น iPad , Taplet , Computer , Internet)
                                       * โปรแกรมที่ใช้ในการจัดพิมพ์ (ใช้โปรแกรมอะไร) Google Doc.
                                       * โปรแกรมนำเสนอผลงาน (ใช้โปรแกรมอะไร) Canva Presentation

- ศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล (Google Search, ผู้เชียวชาญ ,แบบสอบถาม ,สำรวจ)

- วิเคราะห์ข้อมูล เรียบเรียง เขียนรายงาน

- อ่านทบทวนและแก้ไข

2.3 บทสรุป

2.3.1 สรุปผลการศึกษาค้นคว้า

2.3.2 ข้อเสนอแนะ

ส่วนที่ 3 ส่วนประกอบตอนท้าย

- บรรณานุกรม (คลิก...ดูตัวอย่าง

- ภาคผนวก (คลิก...ดูตัวอย่าง)

- ประวัติผู้ค้นคว้า (คลิก...ดูตัวอย่าง)

- ใบรองปกหลัง

- ปกนอกด้านหลัง

หมายเหตุ :	1. จัดพิมพ์เอกสารด้วย Google doc.
	2. ส่งรายงานในรูปไฟล์ .PDF (27 สิงหาคม 2568)
	3. ส่งสรุปผลการศึกษาค้นคว้าด้วย Canva Presentation (10 กันยายน 2568)
	4. ผลงานที่ผ่านการพิจารณานำเชื่อมลิงค์เผยแพร่บนเว็บไซต์โรงเรียน
	5. ระยะเวลาทำเนินงาน กรกฎาคม - สิงหาคม 2568

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ว32296 การสื่อสารและการนำเสนอ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1

ศึกษาเรียบเรียงและถ่ายทอดความคิดอย่างสร้างสรรค์จากรายวิชาเพิ่มเติม การศึกษาค้นคว้า และสร้างองค์ความรู้
( Research and knowledge information ) เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันและสังคมโลก

ฝึกปฏิบัติใช้กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้แบบร่วมมือ กระบวนการกลุ่ม โดยการเขียนโครงร่าง บทนำ เนื้อเรื่อง สรุปในรูปของการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทย ความยาว 4,000 คำ หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คำ มีการอ้างอิงแหล่งความรู้อย่างหลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียบเรียงถ่ายทอดสื่อสาร นำเสนอแนวคิดอย่างชัดเจนเป็นระบบ มีการนำเสนอในรูปแบบเดี่ยว (Oral Individual Presentation) หรือกลุ่ม (Oral Panel Presentation) โดยใช้สื่อเทคโนโลยีที่หลากหลาย และมีการเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะ เพื่อให้เกิดทักษะในการเขียนรายงานเชิงวิชาการและทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เห็นประโยชน์และคุณค่าในการสร้างสรรค์งาน และถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้ประโยชน์แม่สาธารณะ

ผลการเรียนรู้

1. มีความรู้และทักษะวางโครงร่างการเขียนตามหลักเกณฑ์องค์ประกอบและวิธีการเขียนโครงร่างรายงานเชิงวิชาการ

2. เข้าใจและเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการเป็นภาษาไทย ความยาว 4,000 คำ หรือภาษาอังกฤษ 2,000 คำ

3. มีความรู้ทักษะการนำเสนอข้อค้นพบ ข้อสรุปจากประเด็นที่เลือกแบบเดี่ยว หรือกลุ่มโดยใช้สื่อเทคโนโลยี
ที่หลากหลาย

4. เข้าใจและเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณะชน โดยใช้การสนทนาวิพากษ์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

5. เห็นประโยชน์และคุณค่าการสร้างสรรค์งานและถ่ายทอดสิ่งที่เรียนรู้ให้เห็นประโยชน์

อัตราส่วนคะแนน 70 : 30


> Midterm	20	คะแนน
> Final	30	คะแนน
> Project & Presentation	25	คะแนน
> ใบงาน 1	15	คะแนน ใบงาน 1
> ใบงาน 2	10	คะแนน ใบงาน 2 (pdf)

การศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ (งานวิจัย : Research)

              งานวิจัย คือกระบวนการที่มีการศึกษาและการสืบค้นเพื่อหาคำตอบ หรือสืบค้นข้อมูลที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน
เพื่อค้นหาความรู้ใหม่หรือการเสริมสร้างความรู้ใหม่และเป็นการพัฒนาทฤษฎี เทคนิคใหม่ที่เกี่ยวข้องกับปัญหา
หรือสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ

               รายงานวิจัยหรือบทความวิชาการ จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับชุมชน หน่วยงานวิชาการ และประชาชน
ที่สนใจในเรื่องวิจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแต่ละงานวิจัยมีลักษะและเป้าหมายที่แตกต่างกันได้

เป้าหมายของงานวิจัย
            1. การวิจัยพื้นฐาน (Basic Research) เน้นการค้นหาความรู้ใหม่และการเสริมสร้างทฤษฎี
            2. การวิจัยประยุกต์ (Applied Research) เน้นการนำความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันหรืออุตสาหกรรม
            3. การวิจัยพัฒนา (Developmental Research) เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่เพื่อตอบสนองความ
                ต้องการของสังคมหรือธุรกิจ

งานวิจัยพิจารณาจากลักษณะของการศึกษาตัวแปร แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
           1. งานวิจัยเฉพาะกรณี (Case Study) เช่น การศึกษาว่าเด็กสอบตกเกิดจากสาเหตุใด
           2. งานวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เช่น การสำรวจทัศนคติเพื่อหาข้อเท็จจริง
           3. งานวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการศึกษาตัวแปร โดยการควบคุม มุ่งวิจัย และสังเกตผลที่เกิดขึ้น
               ส่วนใหญ่ใช้ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์

งานวิจัยแบ่งตามระเบียบการวิจัย แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
           1. งานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Research) เป็นการศึกษาหาข้อเท็จจริงที่เป็นเรื่องราวในอดีต เพื่อนำความรู้มา
               อธิบายเหตุการณ์ในปัจจุบันและอนาคต
           2. งานวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) เป็นการศึกษาเพื่อบรรยายปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
           3. งานวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) เป็นการศึกษาตัวแปร เพื่อทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดผล

งานวิจัยเชิงประวัติศาสตร์

เป็นการวิจัยที่ค้นหาและศึกษาข้อเท็จจริงในอดีตโดยข้อมูลที่ใช้ในการ ค้นคว้านั้นมาจากเหตุการณ์ ที่ยังคงเหลือไว้จากอดีต เช่น จดหมายเหตุ โบราณสถานต่างๆ เป็นต้น ประโยชน์ของการวิจัย ชนิดนี้ก็คือ สามารถน ามาใช้เป็นแนวทางในการศึกษา เหตุการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน หรือสามารถน ามาใช้ประกอบการตัดสินใจ เพื่อแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ด้วย

งานวิจัยเชิงพรรณนา

เป็นการวิจัยที่มุ่งศึกษาเพื่อค้นคว้าหา ข้อเทจ็จริงของเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อนําข้อค้นพบไปบรรยายให้เห็นว่า เหตกุารณ์หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร บ่อยครั้งหรือไม่

งานวิจัยเชิงทดลอง

เป็นกระบวนการค้นหาความรู้ ความจริง โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์แบบหนึ่ง ซึ่งศึกษาความเปลี่ยนแปลงของตัวแปรในการทดลองที่เกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขหรือสถานการณ์ที่ได้รับการควบคุมอย่างรัดกุม เพื่อศึกษาเงื่อนไขหรือสถานการณ์ที่จัดขึ้นนั้น เป็นสาเหตุที่แท้จริงของผลหรือปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนแปลงนั้นหรือไม่ โดยผู้วิจัยจะใช้วิธีการสังเกต เปรียนเทียบความแตกต่างของตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นสภาพปกติ กับที่เกิดขึ้นในสภาพที่ได้รับการควบคุมตามเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นความจริงต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการอธิบาย ทำนาย และควบคุมปรากฏการณ์นั้นได้

โครงร่างการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการ (Research) ชั้น ม.5

ส่วนประกอบตอนต้น
       - ปกนอกด้านหน้า (ตัวอย่างหน้าปก)
       - ใบรองปก
       - บทคัดย่อภาษาไทย (Thai Abstract)
       - บทคัดย่อภาษาอังกฤษ (English Abstract)
       - กิตติกรรมประกาศ (ตัวอย่างการเขียน)
       - สารบัญ
       - สารบัญภาพ
       - สารบัญตาราง

บทที่ 1 บทนำ
            1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา (ตัวอย่างการเขียน)
              1.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย
              1.3 สมมติฐาน
              1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
              1.5 ขอบเขตของการวิจัย
              1.6 นิยามศัพท์

บทที่ 2 วรรณกรรมและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
             2.1 ทฤษฎีที่สัมพันธ์กับเรื่องที่วิจัย
             2.2 แนวคิดที่สัมพันธ์กับเรื่องที่วิจัย
             2.3 งานวิจัยที่สัมพันธ์กับเรื่องที่วิจัย

บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย
             3.1 ประชากร
             3.2 กลุ่มตัวอย่าง
             3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล
             3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล
             3.5 ระยะเวลาการวิจัย

บทที่ 4 ผลการวิจัยและอภิปรายผล
            4.1 ผลการวิจัย
            4.2 อภิปรายผล

บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ
            5.1 สรุปผลการวิจัย
            5.2 ข้อเสนอแนะ

ส่วนประกอบตอนท้าย
          - บรรณานุกรม
          - ภาคผนวก
          - ใบรองปก
          - ปกนอกด้านหลัง


หมายเหตุ :	1. จัดพิมพ์ผลงานวิจัยด้วย Google doc.
	2. สรุปผลงานวิจัยและนำเสนอผลงานเป็นกลุ่ม โดยใช้ Canva Presentation (ไม่เกิน 10 หน้า)
	3. ส่งรายงานในรูปรูปเล่มและไฟล์ .PDF
	4. ผลงานที่ผ่านการพิจารณานำเชื่อมลิงค์เผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์โรงเรียน
	5. ระยะเวลาดำเนินงาน กรกฎาคม - สิงหาคม 2568
	6. นำเสนอผลงาน พุธที่ 3 และ พุทธที่ 10 กันยายน 2568